วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คำสอนว่าด้วยรัก :ท่าน ติช นัท ฮันห์ 3


คำสอนว่าด้วยรัก :ท่าน ติช นัท ฮันห์     

กรุณา

แง่มุมต่อมาของความรักที่แท้ก็คือกรุณา หรือความตั้งใจและปรารถนาอยากให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ เศร้าเสียใจน้อยลง แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องทนทุกข์เพื่อช่วยขจัดทุกข์ไปจากผู้อื่น ตัวอย่างเช่น หมอสามารถเยียวยาความเจ็บปวดของคนไข้ได้โดยไม่ต้องเจ็บป่วยด้วยโรคเดียวกัน เพราะถ้าเราเป็นทุกข์มากจนเกินไป เราก็อาจจะย่ำแย่ จนไม่อาจช่วยเหลือผู้ใดได้ 

การจะสร้างความกรุณาขึ้นในตัว เราจำเป็นจะต้องฝึกหายใจอย่างมีสติ ตั้งใจในการฟังและเฝ้าดูอย่างจดจ่อ ในสัทธรรมปุณฑริกสูตรได้ อธิบายว่า อวโลกิเตศวรคือพระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญเพียร

“ทรงเฝ้ามองด้วยสายพระเนตรแห่งความกรุณา และตั้งใจสดับฟังเสียงร่ำไห้คร่ำครวญของสรรพสัตว์”

ความกรุณานั้นเปี่ยมไปด้วยความห่วงใยอย่างจริงใจเธอรู้ว่าคนอื่นกำลังเป็นทุกข์อยู่ จึงเข้าไปนั่งใกล้ ๆ ตั้งใจเฝ้ามองและสดับฟัง เพื่อจะได้สัมผัสกับความเจ็บปวดของคนผู้นั้น เธอมีความตั้งใจติดต่อสื่อสารกับคนผู้นั้นจริง ๆ เพียงลำพังเท่านี้ก็ช่วยปลดเปลื้องความทุกข์บางส่วนของคน ๆ นั้นลงได้

เพียงแค่ความคิด การกระทำ หรือคำพูดแสดงความเห็นใจ ย่อมสามารถช่วยบรรเทาความทุกข์ สร้างความเบิกบานให้แก่ผู้คนได้ คำพูดเพียงคำเดียวย่อมสามารถปลอบประโลม สร้างความเชื่อมั่น ขจัดความคลางแคลง ช่วยให้เขาหลีกเลี่ยงจากความผิดพลาด ประสานรอยร้าว หรือเปิดประตูไปสู่ความหลุดพ้นได้ เพียงหนึ่งการกระทำอาจสามารถช่วยชีวิตคน หรือทำให้เขาได้ใช้โอกาสนั้นได้อย่างเหมาะสม เพียงหนึ่งความคิดก็สามารถกระทำได้เช่นเดียวกัน เพราะความคิดมักจะนำไปสู่คำพูดและการกระทำเสมอ ถ้าหัวใจเรามีความกรุณา ทุก ๆ ความคิด คำพูดและการกระทำย่อมสามารถก่อให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นได้

สมัยที่ยังเป็นเณร ข้าพเจ้าไม่อาจเข้าใจได้ว่า หากโลกเต็มไปด้วยความทุกข์ เหตุใดพระพุทธองค์จึงยังทรงยิ้มแย้มได้งดงามเช่นนั้น ไฉนความทุกข์ทั้งมวลถึงไม่อาจกัดกร่อนพระองค์ลงได้ ต่อมา ข้าพเจ้าจึงค้นพบว่าพระพุทธองค์ทรงมีความเข้าใจ สงบนิ่ง และตั้งมั่น ทำให้ความทุกข์ไม่อาจครอบงำพระองค์ พระองค์สามารถแย้มยิ้มให้กับความทุกข์ได้ก็เพราะรู้วิธีที่จะจัดการและแปรเปลี่ยนมัน เราจำต้องรู้เท่าทันความทุกข์ โดยที่ยังคงความแจ่มแจ้ง ความสงบ และพละกำลังของเราเอาไว้ เพื่อจะได้ช่วยพลิกผันสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หากเรามีความกรุณา ก็จะไม่จมจ่อมอยู่ในห้วงสมุทรแห่งหยาดน้ำตา และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้พระพุทธองค์ทรงแย้มยิ้มได้

คัดลอกจาก :  http://www.oknation.net/blog/vanessa

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม