วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554
บทพระสูตร : พระสูตรเกี่ยวกับการดับสิ้นซึ่งความโกรธ
บทพระสูตร : พระสูตรเกี่ยวกับการดับสิ้นซึ่งความโกรธ
ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าได้ฟังคำสอนของพระพุทธองค์ ขณะที่ทรงประทับอยู่ ณ วัดอนาถ บิณฑิกะ ป่าเชตวัน ใกล้เมืองสาวัตถี
วันหนึ่งพระอัครสาวกสารีบุตรกล่าวกับหมู่ภิกษุว่า "เพื่อนสหธรรมิก วันนี้ฉันอยากจะ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับ 5 วิธีแห่งการดับสิ้นซึ่งความโกรธ ขอได้โปรดตั้งใจฟังอย่างลึกซึ้ง และนำคำสอนนี้ไปปฏิบัติ"
ภิกษุทั้งหลายน้อมรับและตั้งใจฟัง พระอัครสาวกสารีบุตรได้กล่าวว่า
"อะไรคือวิธี 5 ประการสู่การดับเพลิงแห่งความโกรธ"
นี่คือ วิธีแรก ถ้ามีใครบางคนที่กิริยาท่าทางของเขานั้นกระด้าง ไร้ความเมตตา แต่ถ้อยคำของเขานั้นมีความเมตตา ถ้าเธอรู้สึกโกรธบุคคลนั้น แต่เธอเป็นผู้ฉลาด เธอจะรู้ วิธีภาวนาที่จะดับความโกรธของตน
เพื่อนสหธรรมิก จักกล่าวถึงภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งนุ่งห่มจีวรปะเย็บจากผ้าขี้ริ้ว ปฏิบัติตน แบบโยคี วันหนึ่งท่านได้เดินผ่านกองขยะโสโครก เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล สิ่งขับถ่ายเน่าเหม็น ในกองขยะอันโสโครกนั้น ท่านมองเห็นผ้าชิ้นหนึ่งซึ่งยังคงสภาพดี ท่านยื่นมือไปหยิบผ้าชิ้นนั้น และคลี่กางออกดู เห็นว่าไร้รอยฉีกขาดเปรอะเปื้อน จึงนำกลับไปซักล้างและเย็บเป็นจีวร
เพื่อนสหธรรมิก ถ้าเธอเป็นผู้ฉลาด จะเข้าใจว่า ถ้าใครสักคนหนึ่งมีกิริยาท่าทางที่ไม่ดี ไร้ความเมตตา แต่ถ้อยคำของเขานั้นมีความเมตตา เธอก็จะไม่ใส่ใจในกิริยาท่าทางที่ไร้ความ นุ่มนวลเมตตานั้น และสนใจเพียงถ้อยคำที่มีความเมตตา เมื่อเธอปฏิบัติเช่นนี้ ก็จะดับ ความโกรธของเธอได้
เพื่อนสหธรรมิก วิธีปฏิบัติข้อที่สอง ถ้าเธอโกรธใครสักคนหนึ่ง ซึ่งถ้อยคำของเขานั้นไร้ความเมตตา แต่กิริยาท่าทางของเขานุ่มนวล มีความเมตตา ถ้าเธอเป็นผู้ฉลาด เธอจะรู้วิธีภาวนาปฏิบัติที่จะดับความโกรธของตน
เพื่อนสหธรรมิก จักกล่าวถึงทะเลสาบแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากหมู่บ้าน ทะเลสาบแห่งนั้นลึก ผิวน้ำปกคลุมด้วยพงหญ้าและสาหร่าย มีชายผู้หนึ่งซึ่งกระหายน้ำและทุกข์ทรมานจากความร้อน เขาถอดเสื้อผ้าออกกระโจนลงไปในทะเลสาบแห่งนั้น และใช้มือแหวกว่ายสาหร่าย และหญ้า ดื่มด่ำเพียงสายน้ำฉ่ำเย็น ดับกระหายทางกายและใจ
ในทำนองเดียวกัน ถ้ามีใครสักคนหนึ่ง ถ้อยคำของเขานั้นปราศจากความเมตตา แต่กิริยาท่าทางเปี่ยมด้วยความเมตตา เธอไม่ควรจะ ใส่ใจกับถ้อยคำนั้น แต่ควรจะใส่ใจในกิริยาท่าทางเท่านั้น เพื่อดับซึ่งความโกรธ บุคคลผู้ฉลาดควรฝึกปฏิบัติในวิธีการเช่นนี้
เพื่อนสหธรรมิก ต่อไปนี้คือวิธีปฏิบัติข้อที่สาม ถ้ามีใครบางคนทั้งกิริยาท่าทางและถ้อยคำวาจานั้น ไร้ซึ่งความเมตตา แต่ภายใน หัวใจเขานั้นยังมีความเมตตาอยู่เล็กน้อย ถ้าเธอรู้สึกโกรธบุคคลนั้น แต่เธอเป็นผู้ฉลาด เธอก็จะรู้วิธีภาวนาที่จะดับความโกรธของเธอ
เพื่อนสหธรรมิก จักกล่าวถึงหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งดูยากจน ทุกข์ยาก เหน็ดเหนื่อย กระหายน้ำและเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เมื่อ หญิงสาวผู้นั้นเดินมาถึงทางแยกแห่งหนึ่ง มองเห็นแอ่งน้ำฝนเล็กๆ ซึ่งขังอยู่ในรอยเท้าควาย หญิงสาวผู้นั้นคิดว่า "น้ำเพียงน้อยนิดใน รอยเท้าควายนี้ ถ้าฉันใช้มือหรือใบไม้ช้อนน้ำขึ้นมาดื่มดับกระหาย ก็คงจะไปกวนโคลนตมทำให้น้ำขุ่นไม่สามารถดื่มได้ อย่ากระนั้นเลย ฉันจะหมอบคุกเข่าก้มลงดื่มน้ำนี้โดยตรงด้วยริมฝีปาก" และแล้วหญิงสาวผู้นั้นก็ทำดั่งเช่นที่คิด
เพื่อนสหธรรมิก ถ้าเธอพบใครบางคนทั้งกิริยาท่าทีและถ้อยคำวาจานั้นไร้ซึ่งความเมตตา แต่ภายในหัวใจเขานั้นยังมีความเมตตา อยู่เล็กน้อย เธอก็ไม่ควรใส่ใจในถ้อยคำ กิริยาท่าทางของบุคคลนั้น แต่เธอจงใส่ใจในความเมตตาอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ในหัวใจเขา เธอก็จะดับความโกรธของเธอได้ บุคคลผู้ฉลาดควรปฏิบัติในหนทางนั้น
เพื่อนสหธรรมิก ต่อไปนี้คือ วิธีปฏิบัติข้อที่สี่ ถ้ามีใครบางคน ทั้งถ้อยคำและกิริยาท่าทางของเขานั้น ไร้ซึ่งความเมตตานุ่มนวลใจดี และภายในหัวใจของเขานั้นก็ไม่มีที่ว่างให้กับความเมตตาแม้แต่น้อยนิด ถ้าเธอรู้สึกโกรธบุคคลเช่นนั้น และเธอเป็นผู้ฉลาด เธอก็จะรู้วิธี ภาวนาดับสิ้นซึ่งความโกรธของตน
เพื่อนสหธรรมิก สมมุติว่ามีใครสักคนหนึ่งล้มป่วยลงในระหว่างการเดินทางที่ยาวไกล เขาเดินทางโดดเดี่ยวอ่อนล้า และไกลห่างจาก หมู่บ้าน เขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง รู้ดีว่าความตายจะมาเยือนก่อนจะสิ้นสุดการเดินทาง ถ้าในสถานการณ์ของชายผู้นี้มีคนผ่านมาพบ และช่วยฉุดมือประคองพาเขาไปยังหมู่บ้านถัดไป ช่วยดูแลและรักษาความเจ็บป่วย ปรนนิบัติให้ทุกสิ่งที่เพียงพอแก่ความต้องการของเขา ทั้งอาหาร ยาและเครื่องนุ่งห่ม เนื่องด้วยความรักความเมตตากรุณาของผู้ให้ความช่วยเหลือ จึงทำให้ชายผู้นั้นมีชีวิตรอด
เช่นเดียวกัน เพื่อนสหธรรมิก ถ้าเธอพบใครสักคนที่ทั้งกิริยาท่าทางและถ้อยคำไร้ซึ่งความเมตตา รวมถึงภายในใจของเขานั้นไม่มี ความเมตตากรุณาให้เรียกหาได้ เธอควรจะคิดในวิถีนี้ "บุคคลใดก็ตาม ทั้งกาย วาจา ใจไร้ซึ่งความใจดีมีเมตตา บุคคลนั้นเป็นผู้ที่กำลัง ตกอยู่ในห้วงทุกข์อันยิ่งใหญ่มหาศาล แต่บุคคลนั้นยังสามารถเปลี่ยนแปรความทุกข์ดำเนินสู่ความสุขได้ ถ้าเขาได้พบกัลยาณมิตรที่ดี ทางจิตวิญญาณ" คิดได้ดังนี้ เธอก็จะเปิดใจของเธอด้วยความเมตตากรุณาต่อบุคคลนั้น เธอจะดับความโกรธและช่วยเหลือเขาได้ บุคคล ผู้ฉลาดควรปฏิบัติในวิถีทางเช่นนี้
เพื่อนสหธรรมิก ต่อไปนี้คือ วิธีปฏิบัติข้อที่ห้า ถ้ามีใครบางคน ทั้งถ้อยคำและกิริยาท่าทางของเขานั้น ไร้ซึ่งความเมตตานุ่มนวลใจดี และภายในหัวใจของเขานั้นก็ไม่มีที่ว่างให้กับความเมตตาแม้แต่น้อยนิด ถ้าเธอรู้สึกโกรธบุคคลเช่นนั้น และเธอเป็นผู้ฉลาด เธอก็จะรู้วิธี ภาวนาดับสิ้นซึ่งความโกรธของตน
เพื่อนสหธรรมิก สมมุติว่า ไม่ไกลจากหมู่บ้านนี้มีทะเลสาบที่สวยงามแห่งหนึ่ง น้ำในทะเลสาบนั้นใสกระจ่างและหวานชื่น ก้นบึ้งของ ทะเลสาบก็ราบเรียบเช่นเดียวกัน ริมขอบทะเลสาบนั้นเล่าก็เต็มไปด้วยหญ้าเขียวขจี รายรอบด้วยแมกไม้อันสวยงาม ให้ร่มเงาและความ สดชื่น และมีใครสักคนผู้ซึ่งกระหายหิว ทุกข์ทนด้วยความร้อน ร่างกายชุ่มโชกเหงื่อไคลได้มายังทะเลสาบแห่งนี้ เขาถอดเสื้อบนริมฝั่ง กระโดดลงน้ำ ค้นพบความสบายกายและเบิกบานใจ จากการดื่ม การอาบในแหล่งน้ำอันบริสุทธิ์นี้ ความร้อนความกระหาย และความทุกข์ ของเขาได้มลายหายไปอย่างสิ้นเชิง
เพื่อนสหธรรมิก ในวิถีทางเดียวกัน ถ้าเธอพบใครสักคนที่มีกิริยาท่าทางนุ่มนวลมีเมตตา ถ้อยคำของเขานั้นมีเมตตา และภายในใจ ก็เปี่ยมล้นด้วยความเมตตา ขอให้เธอใส่ใจกับความเมตตา ทั้งกาย วาจา ใจของบุคคลนั้นที่มีอยู่ และอย่าปล่อยให้ความโกรธและความ อิจฉาก่อกำเริบขึ้นในใจของเธอ ถ้าเธอไม่รู้วิธีที่จะอยู่ร่วมอย่างมีความสุขกับบุคคลที่ประเสริฐเช่นนี้ เธอก็ไม่สามารถเรียกตัวเองได้ว่าเป็น ผู้ที่ฉลาด มีปัญญา
เพื่อนสหธรรมิก ฉันได้แบ่งปันห้าวิถีทางแห่งความดับสิ้นซึ่งความโกรธแล้ว
เมื่อภิกษุทั้งหลายได้ฟังคำของอัครสาวกสารีบุตร ก็มีความสุขอย่างยิ่งที่ได้รับคำสอนเหล่านี้ และนำไปปฏิบัติ ๐
--------------------------------------------------------------------
จาก อาฆาตวินยสูตร พระไตรปิฎกบาลี
อังคุตรนิกาย ปัญจกนิบาต
คัดลอกจาก : http://www.thaiplumvillage.org/
ป้ายกำกับ:
ภาวนาด้วยหัวใจ,
Buddhist,
plum village,
thich nhat hanh
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยม
-
ต้นไม้........สอนธรรม โดย พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต หากเปรียบดวงอาทิตย์เป็นบิดาผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้สร้างเมฆฝน แม่น้ำลำธาร สร้างสายลม ให้ควา...
-
ติช นัท ฮันห์ เขียน รสนา โตสิตระกูล แปล แม่ในความคิดคำนึงไม่อาจแยกขาดจากคำว่า "รัก" ได้ รักนั้นฉ่ำหวาน อ่อนละมุนและโอ...
-
Thich Nhat Hanh ติช นัท ฮันห์ กำเนิดในปี พ.ศ. 2469 ที่จังหวัดกวงสี ในตอนกลางของประเทศเวียดนาม ท่านมีชื่อเดิมว่า เหงียน ซวน เบ๋า (...
-
โปรด....อย่าลืม ! ท่าน ว. วชิรเมธี ได้เตือนสติพวกเรา ว่าจงอย่างลืม สิ่งต่อไปนี้ มันจะทำให้เรามีสติ และรู้ทันทุกข์ อย่าลืม ว่าเราเกิดมาเ...
-
คิดบวก ชีวิตบวก Positive thinking , Positive life แง่คิดดีๆ ของ ท่าน ว. วชิรเมธี เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสใน การเตรียมพ...
-
นี่ไม่ใช่การเก็บกดหรือการต่อสู้ ทว่าเป็นการรับรู้ เวลาที่รับรู้โทสะ เราจะโอบกอดมันไว้ด้วยความระลึกรู้ ด้วยความอ่อนโยนอย่างยิ่งยวด ------...
-
Thich Nhat Hanh หมู่บ้านพลัม (Plum Village) เมืองบอร์กโดซ์ (Bordeaux) ประเทศฝรั่งเศส ท่านติช นัท ฮันห์ มีนามเดิมว่า เหงียน ซวน เบ๋า...
-
เวลาที่สำคัญที่สุดคือ ปัจจุบัน โดย ติช นัท ฮันห์ “ จงจำไว้ว่ามีเวลาที่สำคัญที่สุดเวลาเดียว คือ “ปัจจุบัน” ช่วงขณะปัจจุบันเท่านั้นที่เป็น...
-
ธรรมะคำกลอน รจนาโดย ท่านพุทธทาส วันนี้ ว่าด้วยเรื่อง คาถาดับสังขาร ๖๖.ฉสฏฐี...คาถาดับสังขาร ๐ สิ่งปรุงแต่ง ทั้งหลาย ไม่เทียงหนอ มันเกิดก่...
-
ท่านพุทธทาสภิกขุ ภาพประกอบโดย dinhin2503@gmail.com's photostream เรียนปรัชญา เรียนอะไร ถ้าเรียน อย่างปรัชญา ที่เทียบกับ คำว่า ฟิโลโซ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น