วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2555

หลังบ้านมีธารใส

หลังบ้านมีธารใส

หลังบ้านมีธารใส
โดย รินใจ

หลายคนพบว่า
บ้านที่เคยเป็นเพียงที่ซุกหัวนอน ...
กลายเป็นแหล่งแห่งความสุข

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สมัยคุณทวดยังเด็ก…
มีชาวไร่ในแอฟริกาใต้คนหนึ่ง หลังจากทำมาหากินอยู่บนที่ดินอันแห้งแล้ง เต็มไปด้วยกรวดด้วยหินมาเป็นเวลาหลายปี วันดีคืนดีก็ได้ยินว่า มีคนพบเพชรไปทั่วประเทศ เขาจึงขายที่ แล้วออกเดินทางเสาะหาเพชร

      เขาค้นหาอยู่หลายปีแต่ก็ไม่เพชรสักเม็ด ในที่สุดก็สิ้นเนื้อประดาตัว และตายอย่างคนอนาถา

      อยู่มาวันหนึ่ง ชายคนที่ซื้อที่ต่อจากชาวไร่ผู้นั้น สังเกตเห็นหินลักษณะผิดธรรมดา ๒-๓ ก้อนในที่ผืนนั้น ด้วยความสงสัยเขาจึงนำมันไปล้างน้ำ แล้วก็ลองขัดดู

      ปรากฏว่า ที่ผืนนั้นกลายเป็นเหมืองเพชรคิมเบอร์ลี่ อันเลื่องลือไปทั่วโลก มาจนทุกวันนี้

      อะไรทำให้ชาวไร่ผู้น่าสงสารนั้นพลาดโอกาสที่จะเป็นเศรษฐีเงินล้าน เราอาจโทษให้เป็นเรื่องของโชคชะตาที่แอบมาเล่นตลกร้ายกับเขา แต่ถ้าสรุปแบบนี้ก็จะไม่เป็นธรรมกับโชคชะตานัก เพราะโชคนั้นอุตส่าห์มาช่วยเขา ถึงขนาดรออยู่ใต้เท้าแล้ว แต่เขากลับมองไม่เห็น

      ทำไมถึงมองไม่เห็น ก็เพราะจิตใจของเขาหมกมุ่นอยู่กับดินแดนอันไกลโพ้น จนลืมนึกถึงที่ที่ตนเองยืนอยู่ เขาฝันถึงเพชรตรงโน้นตรงนั้น แต่กลับไม่สนใจใยดีกับที่ของตัว ซ้ำกลับดูถูกดูแคลนจนขายทิ้งไปเลย

      บ่อยครั้งที่เราก็ไม่ต่างจากชาวไร่ผู้นั้น เราทุกคนเปรียบดังผู้แสวงโชค โชคที่ว่าคือความสุขความเต็มอิ่มในชีวิต แต่เรากลับไปนึกว่ามันอยู่โน่น… เราต่างพากันไขว่คว้าหาความสุขตามศูนย์การค้า ตลาดหุ้น ผับ หรือเมืองนอก แต่เรากลับนึกไม่ถึงว่าโชคหรือความสุขนั้นรอเราอยู่แล้ว ตรงนี้ ตรงที่ที่เรานั่งอยู่หรือมีอยู่แล้วในครอบครอง

      ของดีนั้นมักแอบอยู่ตรงมุมที่เราไม่นึกว่าจะมี ตรงที่ที่ขี้เหร่ ไม่น่าดู หรือเห็นซ้ำซากจำเจนั่นแหละ ลองสังเกตดูให้ดีๆ ทำใจให้สบาย เราอาจเห็นประพิมพ์ประพายของโชค ส่องประกายจากมุมที่แสนธรรมดานั้น

      หลายคนพบว่า บ้านที่ตัวเองเคยถือเป็นเพียงที่ซุกหัวนอนเท่านั้น เป็นแหล่งแห่งความสุขอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน สมัยเศรษฐกิจเฟื่องฟู ก็ไปนึกว่าความสุขอยู่นอกบ้าน แต่เมื่อเงินหดหาย ไปไหนไม่สะดวกเหมือนก่อน ถึงรู้ว่ารอบโต๊ะกินข้าวในครัว หรือสนามหญ้าหน้าบ้าน ก็มีความสุขให้ตนชื่นชมสัมผัส ได้อย่างเหลือเฟือ เพียงแต่รู้จักชวนลูกหลานมาทำอาหารกินกันวันหยุด หรือเลี้ยงสังสรรค์เบาๆ ที่บ้าน แทนที่จะไปฉลองกันตามภัตตาคารหรูอย่างแต่ก่อน แต่ก็อย่าเพิ่งเพลินใจไปกับหน้าบ้านหรือในบ้านเท่านั้น อีกจุดหนึ่งที่สามารถยังความอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ให้แก่เราได้ก็คือหลังบ้าน

      หลังบ้านมักเป็นบริเวณที่ขี้เหร่ที่สุดของบ้าน ไม่ค่อยมีใครอยากให้แขกเห็นหลังบ้านของตัว เพราะมักเป็นที่เก็บของเหลือใช้ หนักเข้ากลายเป็นกองขยะไปเลยก็มี แม้แต่เจ้าของบ้าน ยังไม่อยากเยี่ยมหน้าออกไปเห็นเลย

      ไม่ฉลาดเลยถ้าเรารังเกียจหลังบ้าน จำบทเรียนจากชาวไร่ผู้ดูแคลนที่ดินของตัวได้ไหม คนเป็นอันมากพบว่าหลังบ้านกลายเป็นวิมานน้อยๆ เมื่อแปรสภาพหลังบ้านให้กลายเป็นสวนผักย่อมๆ เป็นที่ชุบชูใจในยามเย็น เมื่อได้พรวนดินและประคบประหงมชีวิตน้อยๆ ให้เกิดขึ้น

      จำได้ว่าตอนเด็กๆ หลังบ้านช่างรกไปด้วยหญ้าและขยะ แถมติดกับท่อน้ำครำอีกด้วย แต่เมื่อพวกเราช่วยกันถางหญ้า จัดแต่งต้นไม้ และขนปฏิกูลไปทิ้ง พื้นที่น้อยๆ ก็กลายเป็นที่สังสรรค์ในยามค่ำคืนได้อย่างวิเศษ แม้ท่อน้ำครำยังอยู่ แต่ความเพลิดเพลินบันเทิงใจบวกกับจินตนาการของเรา ก็ทำให้มันไม่ต่างอะไรจากสำธารใสในป่าลึก

      ปฏิกูลและซากเน่าของพืชสัตว์ สามารถแปรสภาพเป็นดอกไม้งาม และผลไม้หวานอร่อยฉันใด มุมที่อัปลักษณ์อัปภาคย์ก็สามารถกลายเป็นสรวงสวรรค์ฉันนั้น

      เชื่อหรือไม่ว่า หลังบ้านของทุกบ้านล้วนมีลำธารใสให้ชื่นชม เพียงแต่เราจะเห็นมันหรือเปล่าเท่านั้น

      หนังสือเล่มนี้ จะเป็นเสมือนลำธารใส ให้แก่ผู้อ่านทุกคน เพื่อจะได้มีกำลังใจเสาะหา 'เพชร' ในตัวเอง

โดย ร่มไม้-ริมระเบียง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม